ทีมชาติไทย

ทีมชาติไทย หนทางสยบทัพดาวทอง!

   ทีมชาติไทย จะมีโอกาสแค่ไหนที่จะสยบทัพดาวทอง วันนี้เราจะมาคุยกัน ต้องขอบอกเลยว่า แอด รอเวลานี้มานานมากแล้ว ในการที่จะมีโอกาส เขียนถึงฟุตบอล ทีมชาติไทย ผ่านสมองอันน้อยนิด ของแอด ที่ ทั้งฟังรายการยูทูป การสอนแทคติตฟุตบอล จากโค้ช ยูทูปเบอร์ หลายสำนัก 

   หลายท่านพูดถึง ทีมชาติไทย เรื่องระบบการเล่นไม่ว่า จะรายการของ โค้ชธง ธงชัย สุโกกี  รวมถึงยอดคนโค้ชฟุตบอลรุ่นลายคราม อ.วิบูลย์ มณีฉาย ที่สอนให้คนทั่วไปอย่างผมได้เข้าใจฟุตบอลมากขึ้น ว่ามันเป็นศาสตร์ที่ มีอะไรลึกซึ้งจริงๆอยู่ข้างใน แต่ พวกท่านก็เอามาย่อยให้คนทั่วไปได้เข้าใจ ทานได้แบบ พอดีคำ

 

เอาใกล้ๆตัวตอนนี้รายการ ที่ คนทั่วไปเข้าถึง ในการรัยชมรับฟังเรื่องฟุตบอลเชิงลึก ก็จะมีของ โค้ชธง ฟุตบอล108 ของพี่ปูเป้,รายการ แตงโมลงปิยะพงษ์ยิง ของน้าตุ๊กและแตงโม

ประการแรกที่ทุกคนพูดถึงก่อน คือ จุดแข็งจอง ทีมชาติเวียดนาม ซึ่งทั้งสถิติ และ ผลงานที่ออกมาช่วงหลังต้องบอกเลยว่า เกมส์รับ และ การโต้กลับเร็ว ที่เล่นน้อยจังหวะ รวมถึงทีมเวิร์คการเคลื่อนที่โดยไม่มีบอล  ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ มีรูปแบบชัดเจน

ทีนี้แอดขอนำเสนอผ่านมุมมองแอด จ่กการติดตามดูทั้ง ไทยลีค,ทีมชาติไทย,เจลีค หรือ บอล เอเชีย รวมถึงหันไปแวะดู เวียดนามเล่นบ่อยๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ตอนนี้ทีมชาติเวียดนามกำลังสร้างรากฐานที่มีรูปแบบและมั่นคง อันเกิดจากการทำซ้ำ

ยังมีแฟนบอลหลายคนมองว่า การที่เรามีตัวผู้เล่นมากกว่า ตัวเปลี่ยนทดแทนกันได้มากกว่า ศักยภาพนักเตะเราหลายคนตัวต่อตัวเหนือกว่า แต่ฟุตบอลมัน คือ กีฬา ประเภททีม และ มีความเข้าใจเป็นที่ตั้ง

ถามว่าเรามีดีพอจะชนะไหม มี เขามีช่องว่าง และ จุดอ่อนไหม ก็มี แต่ถ้าราเปิดใจมองเรื่อง การเล่นเป็นทีมที่เข้าขารู้จังหวะกัน เวียดนามมีตรงนี้ ทั้งสามแดน (แดนที่1 คือ แดนในเขตฝั่งเรา,แดน2 คือ ส่วนหน้ากรอบเขตโทษ30หลาฝั่งเราจนไปถึงบริเวณ30หลาฝั่งเขา,แดนที่3 คือ บริเวณกรอบเขตโทษฝั่งเขา)

  เรามีจุดเด่นในเรื่องตัวผู้เล่นที่มีทักษะโดดเด่น และ มีบางคนค้าแข้งต่างแดนกับลีคที่สูงกว่า ไทยลีค ปัญหาคือ เวลาในการรวมตัว รวมถึงเวลาที่จะใส่วิธีการ ในการจะใส่ข้อมูลลงไปในนักเตะทั้งทีม โดยที่ในทีมแต่ละคนมีความสามารถในการรับรู้ในระดับที่แตกต่างกัน

  สังเกตุได้ว่า ตลอดทุกแมตช์ของรอบแรก เรามีวิธีการเข้าทำหลากหลายก็จริง แต่มันมาจากการเริ่มเกมส์ที่ริมเส้น

โดยการแทงบอลน้อยจังหวะไปในไลน์ขวางทะแยงเข้าใน หรือ การเปิดจ่กริมเส้นส่วนใหญ่ โดยมีลูกครอสของ อุ้ม ลูกหนึ่งที่ มีการแท้ปอิน จากการวิ่งมาเข้าฮอสของมุ้ยที่ดูกระชับ และ มีคลาสที่สุดลูกหนึ่ง

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมฟังโค้ชธง และ เห็นด้วยอย่างยิ่งในประเด็นปัญหาที่ซ่อนอยู่ในนั้น ก็คือ ปัญหาการเข้าทำ แบบคอมบิเนชั่นเพลย์ ในแดนสุดท้าย เรามีการเล่นที่มากกว่าสองคน และ รู้ใจกันน้อยพอสมควร ยิ่งเมื่อเจอทีมที่ตั้งรับในแดนตัวเองแน่น และ เราไม่ได้ซ้อมการเข้าทำที่ ไวพอ เร็วพอ และ หลากหลาย ถามว่าเราเล่นดีไหม ผมมองส่าทีมชาติไทยยกระดับขึ้นมา มีรูปแบบที่มีคลาส และ สากล ขึ้นมากๆ

แต่เรามักมีปัญหาจากการ เน้นริมเส้น และ การเข้าทำแบบมีรูปแบบชัดเจนที่มาจากการซ้อมซ้ำๆ เรายังคงต้องพึ่ง ความสามารเฉพาะตัว จากนักเตะ บางคนอยู่ ซึ่งถ้าเราเจอทีมที่เพรสซิ่งเร็ว และ เราขยับกันช้าบางคน หรือ ไม่ขยับเลย หรือขยับไม่ทัน นั่นแหละ คือ ปัญหา

สิ่งที่น่าห่วงสำหรับผม ที่มากกว่เกมส์รุก คือ ยิ่งเมื่อเราตื้อในการหาช่องเข้าทำ ตรงกลาง ไสตล์ของมาโน่ คือ แบ้คสองข้างเป็นพระเอก ดันขึ้นสูง และ เมื่อเติม แล้วเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ช่องว่างหลังไลน์ริมเส้นเรา อาจเป็นมีดที่กลับมาทิ่มแทงเราเอง

ที่ต้องกังวลอีกเรื่อง คือ หากเวียดนามมาแนว ดันสูง กดให้ เซนเตอร์เรา ออกบอลยาก ซึ่งเท่าที่เห็น ดูจะมี กฤษฎา กาแมน คนเดียวที่ เล่นลูกบนพื้นได้ดี และ ข้อผิดพลาดน้อย ถึงจะตัวเล็กในตำแหน่งเซนเตอร์ แต่ ด้วยความที่ปกติเล่นกลางรับ จึงมีทักษะของกองกลางด้วย เพียงแต่ คนที่มายืนคู่ กฤษฎา ถ้าโดนกดดันมากๆ จะมีอาการออกแบบลูกที่ ทอมเบียร์ สกัดเจ้าทางฟิลลิปปินส์เสียประตูหรือไม่

นั่นหมายความตามตรงว่า ถ้านับถึงตอนนี้ เวียดนามเป็นรองเรื่อง ความฟิตผู้เล่น ตัวเปลี่ยนที่ทดแทนกันได้น้อยกว่าทีมชาติไทย แต้ ถ้าถูกทดแทนด้วย ทีมเวิรืค และ ความเข้าใจ แถม ขยันแบบเวียดนาม

มันก็ต้องไปวัดกึ๋น ของ มาโน่ แล้วว่า จะใช้จุดเด่นที่เรามีตัวเลือกในการใช้คนยังไง ซึ่งเท่าที่ฟังข้อมูลมาต้องบอกว่า มาโน่ ไม่ใช่กุนซือที่โค้ชชิ่งวิธีการเล่นที่ละเอียด แต่ เขาแค่บริหารคนภาพรวม และ ให้นักเตะมีอิสระในการคิด ซึ่งต่างจาก ปาร์ค ฮัง ซอ อย่างชัดเจน ที่ใช้วิธีการแบบ เกาหลี ญี่ปุ่น คือ วินัย เข้าใจ จดจำ ทำซ้ำ จนเกิดความเป็นธรรมชาติ และ ชำนาญ

ถ้าเปรียบเปรยแบบสนุกๆ ผมมอง คล้าย ฮอลแลนด์ เจอ อิตาลี เยอรมัน ทีมชาติไทยสำหรับผม เปรียบดั่งทีมชาติ ฮอลแลนด์ที่ผมชื่นชอบ มีแชมป์ติดมือบ้าง แต่ เมื่อเจอทีมที่เน้นรับระบบแน่น การบุกที่ดูเพลินสวยงาม ก็ดูจะตื้อไปดื้อๆ

ผมเชียร์ทยแน่นอน และ ไม่ได้อยากชื่นชมเวียดนาม แต่เมื่อไปฟัง ดู คิดตามมากขึ้นมันทำให้ผม ต้องคิดไปทางนั้น เยอรมัน เกาหลี ไม่ได้มีนักเตะที่หสือหวา แต่ วินัยสูง ครองแชมป์โลกหลายสมัย ส่วน ฮอลแลนด์ ยังไม้เคยจนพักหลังต้องออกมายอมรับวิธีการของเยอรมัน และ นำมาประยุกต์ใช้

หากจะใช้ความหวือหวาความสามารเฉพาะตัวในการเจาะแนวรับ มันมีโอกาสแน่นอน แค่เราใช้ได้มีประสิทธิภาพแค่ไหน และ ถ้าเราใช้แต่มันยังไม่มากพอจะเอาชนะเกมส์รับคู่ต่อสู้ ก็ต้องรอดุ แผนต่อต่อไปที่ กุนซือเราเตรียมไว้แล้วละ

ต่างฝ่ายต่างมี ข้อเด่น เวียดนามก็เริ่ทแสดงความแผ่วมากขึ้นๆ เพราะใช้นักเตะเดิมยืนพื้น ตัวหลักที่สำคัญ มีไม่กี่คน แค่ไพ่ไม้ตายของฝั่งไหน เนียนกว่า หลอกอีกฝั่งเทหมดหน้าตักแล้วกินเต็ม

 

นัดนี้อย่าว่าแต่ชี้ชะตาทีมชาติเลย ชี้ชะตาโค้ชด้วย เพราะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ไปต่อแน่นอน

วันที่ 23 ธค. 64 คนไทย คนเวียดนาม คนเวียดกง คนไทยนาม ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

 

  “เด็กเนิร์ดสีส้ม”